ผมได้มีโอกาสเข้าอบรมการเขียนโปรแกรมและการสร้างหุ่นยนต์เตะจุดโทษ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไปพร้อมกัน ในการอบรมครั้งนั้นผมได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานการเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งงานหุ่นยนต์ การใช้เซนเซอร์ตรวจจับตำแหน่งลูกบอล การคำนวณมุมและแรงที่เหมาะสมในการเตะ ไปจนถึงการควบคุมมอเตอร์เพื่อให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ สิ่งที่ผมได้จากการอบรมนี้ไม่ใช่แค่ความรู้ด้านเทคนิค แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เข้าใจการทำงานเป็นระบบมากขึ้น ผมได้ฝึกแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น การที่หุ่นยนต์เตะพลาดทิศทาง การที่เซนเซอร์อ่านค่าไม่ถูกต้อง หรือโปรแกรมที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้สอนให้ผมรู้จักวิเคราะห์ปัญหาและหาทางปรับปรุงอย่างเป็นขั้นตอน การสร้างหุ่นยนต์เตะจุดโทษยังทำให้ผมเห็นความสำคัญของการเชื่อมโยงระหว่างซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ว่าหากการเขียนโปรแกรมแม่นยำแต่โครงสร้างหุ่นยนต์ไม่ดี ผลลัพธ์ก็อาจไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ หรือหากโครงสร้างแข็งแรงแต่โปรแกรมไม่ถูกต้อง หุ่นยนต์ก็ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ประสบการณ์นี้จึงช่วยให้ผมเข้าใจหลักการทำงานแบบองค์รวม จากการอบรมครั้งนี้ ผมได้รับแรงบันดาลใจที่จะนำความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมและการควบคุมหุ่นยนต์ไปต่อยอดสู่โครงงานอื่น ๆ โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถแก้ปัญหาในชีวิตจริง เช่น การสร้างระบบ AI วิเคราะห์น้ำเชื้อวัว หรือการสร้างนวัตกรรมเพื่อช่วยในด้านการแพทย์และการเกษตร ซึ่งผมเชื่อว่าความรู้จากการเขียนโปรแกรมและการทำหุ่นยนต์จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญต่อการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ในอนาคต
ครั้งนี้ผมได้มีโอกาสไปศึกษาวิถีชีวิตของวัวในฟาร์ม เห็นทั้งการดูแลวัวตั้งแต่เรื่องอาหาร ความเป็นอยู่ ไปจนถึงการจัดการฟาร์ม สิ่งที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือการเพาะพันธุ์และการผสมเทียม ซึ่งถือเป็นขั้นตอนสำคัญมากต่อการเลี้ยงวัว เพราะต้องใช้น้ำเชื้อที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้การผสมติดจริง ๆ ผมได้เห็นขั้นตอนการตรวจน้ำเชื้อที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งการนับจำนวนอสุจิ การดูการเคลื่อนไหว และการพิจารณารูปร่างนอกจากนี้ผมยังได้เรียนรู้การนำมูลวัวมาทำปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งช่วยลดของเสีย เพิ่มมูลค่าให้กับฟาร์ม และเป็นการจัดการที่ยั่งยืน ทำให้ผมเห็นว่าทุกอย่างในฟาร์มเชื่อมโยงกันหมด ทั้งสุขภาพวัว คุณภาพน้ำเชื้อและผลผลิตที่ตามมาจากประสบการณ์ทั้งหมดนี้ ผมจึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาโครงงาน AI วิเคราะห์คุณภาพน้ำเชื้อวัว เพื่อให้ระบบสามารถตรวจจับอสุจิจากวิดีโอ วิเคราะห์ว่าตัวไหนสมบูรณ์หรือไม่สมบูรณ์ รวมถึงวิเคราะห์การเคลื่อนไหวอย่างละเอียด ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดจากการตรวจด้วยสายตา และให้ข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น สุดท้ายจะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จของการผสมเทียม และสร้างประโยชน์ต่อเกษตรกรและวงการปศุสัตว์ไทยในอนาคต
ผมได้มีโอกาสไปศึกษาการสร้างพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทำให้เข้าใจตั้งแต่หลักการพื้นฐานจนถึงกระบวนการผลิตพลังงานที่ใช้งานได้จริง การศึกษาครั้งนี้เริ่มจากการเรียนรู้วิธีการเปลี่ยนพลังงานรูปแบบต่าง ๆ เช่น พลังงานกล พลังงานแสงอาทิตย์ หรือพลังงานน้ำ ให้กลายเป็นไฟฟ้าได้ ผ่านอุปกรณ์ เช่น กังหันไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ หรือแม่เหล็กและขดลวดไฟฟ้า ผมได้เห็นว่าการสร้างไฟฟ้าต้องอาศัยหลักฟิสิกส์หลายอย่าง เช่น การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า การหมุนของกังหัน หรือการสะสมพลังงานจากแหล่งธรรมชาติ นอกจากนี้ ผมยังได้เห็นการทดลองสร้างวงจรไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น การต่อวงจรไฟฟ้าโดยใช้แบตเตอรี่ มอเตอร์ และหลอดไฟ เพื่อให้เห็นภาพการทำงานจริงของพลังงานไฟฟ้า ตั้งแต่การผลิต การส่งผ่าน จนถึงการใช้งาน สิ่งนี้ช่วยให้ผมเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานและเทคโนโลยีอย่างชัดเจน การศึกษาครั้งนี้ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผมคิดต่อยอดไปสู่การพัฒนาโครงงานด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีที่ใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การสร้างระบบพลังงานแสงอาทิตย์อัตโนมัติ หรือการประยุกต์ใช้พลังงานไฟฟ้าในหุ่นยนต์และอุปกรณ์ IoT ซึ่งผมเชื่อว่าจะช่วยให้ผมต่อยอดความรู้ด้านวิศวกรรมและนวัตกรรมได้ในอนาคต
ผมได้เรียนรู้การใช้ CiRA Code ในการสร้างและพัฒนา AI ตั้งแต่การเขียนโค้ดเบื้องต้น การออกแบบโมเดล ไปจนถึงการนำ AI มาประยุกต์ใช้แก้ปัญหาในสถานการณ์จริง การเรียนรู้ครั้งนี้ทำให้ผมเข้าใจการทำงานของ AI อย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการเตรียมข้อมูล การฝึกสอนโมเดล และการทดสอบความแม่นยำของผลลัพธ์ ผมยังได้ฝึกการเชื่อมต่อ AI เข้ากับระบบอื่น ๆ เพื่อให้สามารถทำงานอัตโนมัติได้จริง สิ่งที่ผมได้รับไม่ใช่แค่ความรู้เชิงเทคนิค แต่ยังเป็นทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์และการแก้ปัญหา เช่น การปรับแต่งโมเดลให้เหมาะสมกับข้อมูล การหาสาเหตุเมื่อระบบทำงานผิดพลาด และการออกแบบให้ AI มีประสิทธิภาพตรงตามเป้าหมาย ประสบการณ์นี้ทำให้ผมเห็นความเป็นไปได้ของการนำ AI มาช่วยพัฒนาในหลายด้าน ทั้งการเกษตร การแพทย์ และอุตสาหกรรม และทำให้ผมมั่นใจว่าสามารถต่อยอดไปสู่การสร้างโครงงานนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมได้จริง
ผมได้มีโอกาสศึกษาด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ปัจจุบันข้อมูลและระบบออนไลน์มีบทบาทต่อชีวิตประจำวันและการทำงานอย่างมาก ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงแนวทางในการป้องกัน การศึกษาด้านนี้ช่วยให้ผมเข้าใจว่าความปลอดภัยไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับซอฟต์แวร์ ผมได้ฝึกวิเคราะห์ความเสี่ยง วางมาตรการป้องกัน และแก้ปัญหาเมื่อพบช่องโหว่ ประสบการณ์นี้ทำให้ผมตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างระบบที่มั่นคงและน่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด
ผมได้ศึกษาการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ว่าปัญญาประดิษฐ์สามารถเข้ามาช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลภาพ การคาดการณ์แนวโน้ม หรือการสร้างระบบอัตโนมัติ การเรียนรู้นี้ทำให้ผมเข้าใจหลักการทำงานของ AI ตั้งแต่การเตรียมข้อมูล การสร้างโมเดล การทดสอบความแม่นยำ ไปจนถึงการนำไปใช้งานจริง สิ่งสำคัญที่ผมได้คือการตระหนักถึงศักยภาพของ AI ที่สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั้งในด้านการศึกษา การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้ผมมีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาทักษะและนำไปต่อยอดสู่การสร้างโครงงานนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม
คัดเลือกนักเรียน 3 โรงเรียนในจังหวัดและคัดเลือกนักเรียนห้องละ 5 คน
ผมได้มีโอกาสเป็น วิทยากรสอนการบังคับหุ่นยนต์ ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ทำให้ผมได้ถ่ายทอดความรู้ด้านการควบคุมหุ่นยนต์ให้แก่เพื่อน ๆ และผู้เข้าร่วมงาน ตั้งแต่พื้นฐานการบังคับ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้งานจริง การเป็นวิทยากรในครั้งนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารและการทำงานร่วมกับผู้อื่นแต่ยังทำให้ผมได้เรียนรู้วิธีอธิบายเรื่องยากให้ง่ายขึ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่สนใจด้านหุ่นยนต์และเทคโนโลยีมากขึ้น
ผมได้เข้าร่วม ค่ายอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อำเภอห้วยคต จังหวัดอุทัยธานี เป็นระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ในค่ายนี้ผมได้เรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่า การจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการใช้ชีวิตอย่างใกล้ชิดกับธรรมชาติ ผมยังได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การสำรวจป่า การสังเกตสัตว์ และการปลูกต้นไม้ สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมเข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาสิ่งแวดล้อม และสร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้ยั่งยืนต่อไป
ผมได้มีโอกาสเข้าร่วม ค่ายวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างมาก ระหว่างค่ายได้เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสายวิศวกรรมหลากหลายแขนง ได้ทดลองคิด วิเคราะห์ และออกแบบโครงงานจำลองเสมือนการทำงานจริงของวิศวกร รวมทั้งได้แลกเปลี่ยนความรู้และมุมมองใหม่ ๆ กับเพื่อน ๆ จากทั่วประเทศ ทำให้ผมได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ และเข้าใจแนวทางของสายอาชีพวิศวกรรมมากขึ้น